โครงการค่ายเรียนรู้คุณธรรม นำชีวิตพอเพียง ปี 2552
ณ บ้านท่ากลาง-ท่าใต้ อ.แม่ทะ จ.ลำปาง……….
มหาวิทยาลัยโยนก ได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) ในการจัดทำโครงการค่ายเรียนรู้คุณธรรม นำชีวิตพอเพียง ปี 2552 ที่มีวัตถุประสงค์หลัก คือ (1) เพื่อให้นักศึกษาและอาจารย์ของมหาวิทยาลัยโยนกได้ศึกษาและวิเคราะห์วิถีชีวิต เศรษฐกิจ ศิลปะ วัฒนธรรม ความเชื่อ การเมือง การปกครองของประชาชนในชุมชน โดยการสัมผัสและปฏิบัติงานจริง (Activity Based Learning) รวมทั้งได้ร่วมกันศึกษาถึงแก่นแท้ของปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง การสร้างสังคมอยู่เย็นเป็นสุข และการนำไปประยุกต์ใช้อย่างเหมาะสม (2) เพื่อพัฒนาความเป็นผู้นำ (Leadership Development) ให้นักศึกษากล้าคิด กล้าทำ รวมทั้งฝึกหัดใช้กระบวนการวิเคราะห์และสังเคราะห์การเรียนรู้ของนักศึกษาบนพื้นฐานเศรษฐกิจพอเพียง และ (3) เพื่อรวบรวมองค์ความรู้ที่ได้จากการศึกษาเรียนรู้จากชุมชนที่แสดงถึงความเชื่อมโยงเครือข่ายความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยโยนก ชุมชน ศาสนา และปรัชญา ชาวบ้านสำหรับเป็นแนวทางการสร้างสังคมอยู่เย็นเป็นสุข (Green and Happiness Society) เป็นต้น
ปราชญ์ชาวบ้านในชุมชน
กรอบการเรียนรู้ในโครงการค่ายเรียนรู้ คุณธรรม นำชีวิตพอเพียง ในหัวข้อการศึกษาปราชญ์ชาวบ้านในชุมชนในการศึกษาได้ยึดกรอบ ดังนี้
– แหล่งภูมิปัญญาในชุมชน (บ้าน วัด(มัสยิด) โรงเรียน)
– ขอบข่ายประเภท องค์ความรู้ในชุมชน
ความหมายของภูมิปัญญาท้องถิ่น
ภูมิปัญญาท้องถิ่น หมายถึง ความรู้ ความเชื่อ ความสามารถของมนุษย์ในการแก้ปัญหา ปรับตัวจัดความสัมพันธ์และการดำรงชีวิต ให้ผสมผสานและสอดคล้องกับสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติ สังคม วัฒนธรรม และวิถีชีวิตทางกลุ่มชน เป็นการเรียนรู้จากประสบการณ์ของตนเอง และบรรพบุรุษที่ถ่ายทอดสืบต่อกันมา ซึ่งเป็นความรู้แบบองค์รวม (Holistic) ที่มีการเกี่ยวพันอย่างใกล้ชิดกับระบบสังคม วัฒนธรรม รวมทั้งความเชื่อทางศาสนาและสิ่งศักดิ์สิทธิ์
ลักษณะของภูมิปัญญาท้องถิ่น
– เป็นเรื่องของการใช้ความรู้ ทักษะความเชื่อ พฤติกรรมของคนในชุมชน
– แสดงถึงความสัมพันธ์ระหว่างคน ธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมในชุมชน
– มีเอกลักษณ์ในตนเอง ซึ่งมีวัฒนธรรมเป็นพื้นฐาน
– คำนึงถึงวิกฤติการณ์ในชุมชน อันได้แก่ การดำรงชวิตของมนุษย์ และการจัดการทรัพยากรธรรมชาติ
– มีลักษณะเป็นพลวัต คือ เปลี่ยนแปลงได้และมีพัฒนาการอยู่ตลอดเวลา
– ไม่มีการบันทึกเป็นระบบ
– ดูดซับการถ่ายทอดโดยผ่านวิถีชีวิต การปฏิบัติ และการบอกเล่าต่อ ๆ กันมา
จากการศึกษาในหัวข้อ “ปราชญ์ชาวบ้านในชุมชน” พบว่าในหมู่บ้านท่ากลางท่าใต้
มีบุคคลที่มีความรู้ในด้านของปราชญ์ชาวบ้านในชุมชนทั้งหมด 3 ด้าน ดังนี้
1. ด้านการแพทย์แผนโบราณ
-พ่อหนานต้น สายเครือคำ อายุ 77 ปี
-นายจันทร์ดี มูลหอม อายุ 82 ปี
-นายฤทธิ์ แก้วโห้ อายุ 67 ปี
-นายฤทธิ์ แก้วโห้ อายุ 67 ปี
-นายจู สิทธิหนิ้ว อายุ 73 ปี
2. ด้านเศรษฐกิจ คือนายเลื่อน มูลนันไชย อายุ 66 ปี
3. ด้านเกษตรกรรม คือนายเลื่อน มูลนันไชย อายุ 66 ปี
การวิเคราะห์สภาวะแวดล้อมในหัวข้อปราชญ์ชาวบ้านในชุมชน
จุดแข็ง
หมู่บ้านท่ากลาง – ท่าใต้มีปราชญ์
ที่เพียบพร้อมไปด้วยความรู้ ความสามารถและเชี่ยวชาญ
ทั้งในด้านการรักษาแพทย์แผนไทย ด้านเกษตรกรรม และด้านเศรษฐกิจ
จุดอ่อน
ยังไม่มีกระบวนการในการถ่ายทอดองค์ความรู้ที่มีอยู่ใน
ตัวของปราชญ์ให้คงอยู่กับชุมชนได้อย่างยั่งยืน
โอกาส
หน่วยงานในท้องถิ่นสามารถนำองค์ความรู้จากปราชญ์ชาวบ้าน
ไปใช้ในการพัฒนาด้านต่าง ๆ ได้ อาทิ สถานศึกษา (พัฒนาหลักสูตร) องค์การบริหารส่วนตำบล (เศรษฐกิจชุมชน)
อุปสรรค
ยังไม่มีหน่วยงานภาครัฐและเอกชนที่ส่งเสริมสนับสนุน
และดำเนินการรวบรวมข้อมูลเรื่องปราชญ์ชาวบ้านอย่างจริงจัง
ข้อเสนอแนะ
หน่วยงานทั้งในภาครัฐและเอกชนควรเข้ามามีส่วนร่วมเพื่อส่งเสริม และสนับสนุนในด้านปราชญ์ชาวบ้านในชุมชน ให้มีความยั่งยืน เช่น อาจประยุกต์เข้าในบทเรียนของเยาวชน เพื่อศึกษาภูมิปัญญาชาวบ้านในท้องถิ่น หรือ สนับสนุนในด้านของเศรษฐกิจ ในการช่วยส่งสินค้าออกจำหน่าย เพื่อเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจให้ชาวบ้าน อีกทั้งเป็นการสืบทอดภูมิปัญญาดังกล่าวอีกด้วย
รายงานจากกลุ่มปราชญ์
อ.ปวินท์รัตน์ สุดประเสริฐ
โครงการค่ายเรียนรู้คุณธรรม นำชีวิตพอเพียง สอดคล้องกับกระบวนการจัดการความรู้อย่างแท้จริง มีการแลกเปลี่ยนรู้ระหว่างชุมชน ซึ่งคือ ปราชญ์ชาวบ้าน หรือผู้รู้ กับนักวิชาการ ที่ก็คือผู้รู้เช่นกัน ต่างกันเพียงแหล่งที่มาของความรู้ ปราชญ์ชาวบ้าน ได้ความรู้จากประสบการณ์ ทักษะ อาจารย์ นักศึกษา ความรู้ส่วนใหญ่ได้จากหนังสือ ตำรา และทฤษฎีต่างๆ ดังนั้น เมื่อ Tacit Knowledge ของทั้ง 2 ผู้รู้ ได้มาแลกเปลี่ยนกันในเวทีที่เป็น Socialized Network แล้ว Explicit Knowledge ซึ่งเป็นความรู้ชัดแจ้ง และ New Knowledge ก็จะตามมาในที่สุด
ขอบคุณเจ้าอาจารย์…ค่ายคุณธรรม นำชีวิตพอเพียง เป็นแหล่งความรู้ที่อยู่นอกห้องเรียน นศ.โยนกได้ฝึกประสบการณ์ชีวิตที่ล้ำค่า..เรียนรู้ร่วมกัน..สร้างสรรค์ประโยชน์สูงสุด ให้กับตนเองและสังคม…เป็นสิ่งหนึ่งที่ประกาศว่ากิจกรรมมีส่วนทำให้ New Knowledge เป็นความจริง….
ยอดเยี่ยมมาก กับการทุ่มเท เสียสละ ทดแทนคุณแผ่นดินเกิด เพื่อชาติบ้านเมืองที่เราอาศัย เป็นอุดมการณ์ที่มีในนักศึกษา และอาจารย์ที่ทุ่มเทร่วมกันเชิงบูรณาการ ที่ผมต้องเอาเยี่ยงอย่าง และเป็นถือเป็นแนวในการทุ่มเททำงานต่อไป