งานวิจัย เหนื่อยตรงไหน

ในห้วงเวลาที่มนุษย์เราต้องเหนื่อยยากหรือมีปัญหา หากได้ระบายออกมาบ้าง ความเหนื่อยล้าก็สามารถบรรเทาเบาบางลงได้บ้าง แต่ภารกิจบางอย่าง แม้เหนื่อยยาก ติดขัดโน่น ติดขัดนี่ แต่กลับรู้สึกสนุกที่ได้ปฏิบัติภารกิจ การได้ระบายออกมาจึงกลายเป็นสิ่งดีๆ ที่อย่างแบ่งปัน งานวิจัยเป็นหนึ่งในภารกิจที่ผมรู้สึกจริงๆ ว่า ทำแล้วเหนื่อยแต่สนุกที่ได้ทำ ในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาต้องทำการเก็บข้อมูลจากผู้นำของภาคส่วนต่างๆ ในเซรามิคคลัสเตอร์ ก่อนนำมาประมวลผล จึงขอแบ่งปันประสบการณ์ที่ได้รับมาให้พวกเราชาวโยนกดังนี้

– การเก็บข้อมูลเป็นขั้นตอนของกระบวนการทำวิจัยที่เหนื่อยยากเพราะ นัดเวลายากมาก ยิ่งเป็นระดับผู้นำหรือเจ้าของกิจการ คำถามในแบบสอบถามบางครั้งจำเป็นต้องอธิบายมากโดยเฉพาะวิจัยเชิงวิชาการ  นอกจากนั้น คำตอบที่ได้รับจะมั่นใจได้อย่างไรว่าผู้ตอบแบบสอบถามอ่านด้วยความตั้งใจ เข้าใจ และตอบตามความเป็นจริงที่สุด ตรงนี้ผมคิดว่าต้องอยู่ที่ความสนิทสนม พูดง่ายๆ ว่า คุณมีเครดิตหรือไม่

– การออกแบบสอบถาม เป็นสิ่งที่ต้องครุ่นคิดกันมากๆ และต้องมีความละเอียดอ่อน โดยเฉพาะผลที่ได้จากการประมวลผลข้อมูลที่เก็บมาได้ ต้องตอบโจทย์หรือปัญหาของงานวิจัยจริงๆ จะใช้ความรู้สึกไม่ได้ ทุกอย่างต้องมีหลักฐานอ้างอิงชัดเจน

เรื่องนี้ถูกเขียนใน ทั่วไป และติดป้ายกำกับ คั่นหน้า ลิงก์ถาวร

2 ตอบกลับไปที่ งานวิจัย เหนื่อยตรงไหน

  1. การทำงานวิจัย คือการตั้งคำถาม และหาคำตอบ กระบวนการวิจัยก็มีขั้นตอนมากมาย เห็นอาจารย์ทำวิจัยที่ต้องเก็บข้อมูลจากผู้บริหารแล้ว ผมเข้าใจถึงความยากลำบากเลยครับ เพราะในหลายเวทีมีการบ่นกันว่า ปัญหาของสังคม ปัญหาของประเทศ ต้องเริ่มแก้ไขจากตัวผู้บริหารก่อน .. และนั่นคือสิ่งที่ยากที่สุด

  2. ithinkofu พูดว่า:

    อยากบอกกล่าวเล่าความให้เพื่อนๆได้ทราบกัน

    เมื่อเย็นเราได้ไปซื้อกับข้าวที่ตลาดสนามบิน จอดรถหน้าร้านเฟรชมิล (ซึ่งปิดอยู่)ตอนลงรถเราก็เหลียวเออมีร้านเมนูเยอะดี ก็มองแล้วก็เดินไปซื้อกับข้าวในตลาด พอซื้อเสร็จกลับออกมา แม่ยังไม่ออกมาเราก็เลยเดินมารอแม่ที่รถตรงหน้าร้านพอดี ตอนกำลังรอ ก็เลยอ่านเมนูไปเรื่อยๆๆ ไปสะดุดกับเมนูชื่อแปลกๆๆชื่อนึง เลยเกิดความสนใจ เลยไปเอาสมุดมาจด กำลังก้มลง จดเท่านั้นแหละ มีผู้หญิงคนนึงตะคอกมาทางด้านหลังว่า จดไปทำไม จดอะไรน่ะ ตกใจ!!! แต่ก็ตอบไปตามจริงว่าเมนูนี้ พร้อมกับชี้ให้เค้าดูว่าชื่อแปลกดี ว่าจะลองทำให้ตัวเล็กทานดู (ก็เราไม่รู้จักจริงๆ) เค้าทำหน้าเยาะใส่แวพูดว่าจดไปทำไม ร้านนี้มีลิขสิทธินะ ถึงจดไปก็ทำไม่ได้หรอกเค้ามีสูตรต้องไปเรียนมา งงเรยตู ก็ตอบเค้าไปว่า ก็ว่าจะไปพิมชื่อดูในกูเกิ้ล เห็นชื่อแปลก ตอบดีๆๆ เค้าตวาดกลับมาอีก ว่า จดไม่ได้ไม่ให้จด ชั้นนี่แหละเจ้าของ ชั้นไม่ให้จด มีอะไรไหม – -” ตูทำผิดไรหว่า<< ยังไม่รู้ตัว แต่กาโอเค เค้าแสดงตัวว่าเป้นเจ้าของร้านไม่ให้จดเราก็ไม่จด เราก็หยุดแล้วก็บอกไปว่าโอเค แล้วเราก็ยืนหน้าร้านต่อ เพราะรถเราจอดนั้นแล้วแม่เราก็ยังไม่มา ยัยเจ้าของร้านก็เดินเข้าไปเปิดประตู ทุบๆๆน้ำแข็งแล้วเอาน้ำมาสาดตรงหน้าทางเดินที่เรายืนอยู่ เราก็มองแต่ไม่ว่าอะไร ก็เดินขยับไปนิดนึง ยัยนั่นกายังเดินมาบอกเราอีกว่าอยากรู้อยากจดไปเรียนที่ตากนู้นเค้ามีแฟรนชายน์<<<มันยังไม่จบ เรากามอง จะตอบ มันเดินเข้าไปหลังร้าน เรากาเฉย พอมันออกมามันกายังบอกว่า เค้าไม่หั้ยจดๆๆอะไรนี่แหละเราโมโหเลยเอาสมุดให้ดูว่านี่จดอะไร คุณดูสิคะ มันก็สะบัดหน้าแล้วบอกด้วยเสียงสูงว่าไม่เป็นไร้ แล้วก็ไปกระแทกน้ำแข็งอย่างแรง ๆ รับไม่ได้จริงๆๆๆค่ะ อยากให้เพื่อนๆๆที่ได้อ่าน ผ่านไปก็เหลียวๆๆไปดูหน้ามันหน่อยละกัน ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องว่ากันขนาดนี้ด้วยเฮ้อ

ใส่ความเห็น