โฆษณาเลิกเมา เข้าพรรษา

ในช่วงเทศกาลเข้าพรรษาปีนี้ เรามักจะพบเห็นสื่อโฆษณาเพื่อรณรงค์ ลด ละ เลิกเหล้ากันถี่กว่าปกติ

 

โดยโฆษณาดังกล่าวได้ใช้ความเชื่อและกระแสของเทศกาลเข้าพรรษามาเป็นแรงจูงใจ

อดิศักดิ์ จำปาทอง

อดิศักดิ์ จำปาทอง

หลังจากที่โฆษณาชุดก่อนหน้านี้จะประสบความสำเร็จในเชิงของการรับรู้วลีเด็ดต่างๆ เช่น จน..เครียด..กินเหล้า, เลิกเหล้า เลิกจน, เลิกเหล้าเพื่ออนาคต, ชวนพ่อเลิกเหล้า หนูทำได้, ให้เหล้าเท่ากับแช่ง, ไม่ซ้อนคนดื่ม, เลี้ยงเหล้าในงานบุญ..บาป, เมาแล้วขับ ไม่ใช่แค่ปรับ จะถูกจับคุมประพฤติ จนวลีล่าสุด เลิกเหล้า เข้าพรรษา

แต่มูลค่าการตลาดน้ำเมาก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะลดลงแต่ประการใด ซ้ำข่าวคราวอุบัติเหตุทางท้องถนนที่มาจากการดื่มสุรา กลับได้ยินหนาหูมากยิ่งขึ้น

เป็นสถิติที่ไม่น่าภาคภูมิใจสักเท่าไหร่ ที่เมืองไทยจะมีอุบัติเหตุทางท้องถนนมากที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมีผู้เสียชีวิตเฉลี่ยปีละกว่า 12,000 คน มีผู้บาดเจ็บประมาณปีละ 500,000 คน หรือวันละ 14,000 คน รวมมูลค่าทรัพย์สินที่เสียหายปีละกว่าแสนล้านบาท

ถึงแม้ว่า พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 จะประกาศใช้นานหลายปี ประกอบกับการห้ามโฆษณาเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ผสมตั้งแต่ตี 5 ถึง 4 ทุ่มทางสื่อโทรทัศน์และสื่อวิทยุ ซึ่งเป็นเพียงหนึ่งในหลายมาตรการที่คณะกรรมการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนเสนอให้ต้องทำควบคู่กันไปจะขาดอย่างหนึ่งอย่างใดเสียไม่ได้ จะประกาศใช้มานานแล้วเช่นกัน

ยิ่งห้ามก็เหมือนยิ่งยุ เพราะกลุ่มธุรกิจเหล้า เบียร์ และไวน์ ต่างก็ปรับกลยุทธ์ทางการตลาดกันใหม่เกือบทั้งหมด ทางออกของธุรกิจเหล่านี้ทำก็คือ การปรับสัดส่วนของการใช้สื่อใหม่ โดยอาจจะมีการใช้สื่อโทรทัศน์น้อยลง แต่หันไปใช้สปอร์ตมาร์เก็ตติ้ง มิวสิคมาร์เก็ตติ้ง หรือกิจกรรม Below the line มากกว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัด ส่วนสื่อหนังสือพิมพ์และนิตยสารอาจได้รับส่วนแบ่งจากแผนการใช้สื่อไปบ้างแต่คงไม่มากนัก ในขณะที่สื่อออนไลน์ ถึงแม้เม็ดเงินอาจจะยังน้อยเมื่อเทียบกับสื่อหลักอย่างโทรทัศน์ แต่ก็มีแนวโน้มที่สูงขึ้นตามพฤติกรรมการรับสื่อของผู้บริโภค

ไม่ว่าแคมเปญรณรงค์งดเหล้าจะโหมกระหน่ำรุนแรงแค่ไหน แต่ตลาดของน้ำเมาก็ยังขยายตัวมากขึ้นทุกปี เพราะสินค้าซื้อง่าย ขายคล่อง ไม่เว้นแม้แต่ร้านค้าโชห่วยปากซอย ร้านข้าวแกง มีวางขายกันเกลื่อน และเป็นที่น่ากังวลใจจากผลการสำรวจทัศนคติของเด็กและเยาวชนที่พบว่า เด็กและเยาวชนอยากจะดื่มเบียร์ยี่ห้อหนึ่งเมื่อถึงวัย 18 ปี ทั้งนี้เนื่องมาจากชื่นชอบแคมเปญโฆษณาเนื้อหาที่ตรงไปตรงมา และมีการแจกผ้าห่มกันหนาวที่มีตราสินค้าประทับอยู่

ดูตัวอย่างการเอาจริงเอาจังในต่างจังหวัด ที่น่าจะเป็นกลุ่มเป้าหมายหลักของสินค้าน้ำเมากัน เมื่อนายก อบจ.นครศรีธรรมราช ที่สั่งปลดป้ายโฆษณาเบียร์ดังยี่ห้อหนึ่ง รวมถึงสื่ออื่นๆ ที่ใช้ในงาน เช่น สื่อบอลลูน สื่อผ้ากันเปื้อน รวมถึงการเข้มงวดกวดขันห้ามไม่ให้จำหน่ายแก่เด็กและเยาวชนที่มีอายุไม่เกิน 20 ปี ในงานมหกรรมอาหาร เมืองคอน ฟู้ดแฟร์ 56 เมื่อปลายเดือนเมษายน ที่ผ่านมา แต่ก็ไม่น่าจะต้านทานกับแคมเปญสื่อสารการตลาดของสินค้าน้ำเมาที่โหมกระหน่ำกันอยู่ในขณะนี้

จึงอยากจะขอวิงวอนให้ภาครัฐเอาจริงเอาจังกับแคมเปญสื่อสารการตลาดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างจริงจังมากขึ้น เพราะการบังคับให้ต้องแสดงข้อความเตือน เช่น สุราเป็นเหตุก่อมะเร็งได้ สุราเป็นเหตุให้เซ็กซ์เสื่อมได้ สุราเป็นเหตุให้พิการและเสียชีวิตได้ สุราเป็นเหตุให้ทะเลาะวิวาทและอาชญากรรมได้ และสุราเป็นเหตุให้ทำร้ายครอบครัวและสังคมได้ อาจจะไม่เพียงพอ เพราะเมื่อเทียบกับค่าใช้จ่ายในการรักษาผู้ป่วยจากอุบัติเหตุที่เมาแล้วขับซึ่งเป็นจำนวนมากมายหลายเท่าตัว

และยังจะช่วยทำให้ภาพของการจัดระเบียบสังคมเด่นชัดมากขึ้นอีก หลังจากที่รัฐได้จัดระเบียบสังคมไปแล้วหลายเรื่องอย่างต่อเนื่องกัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องยาเสพติด การพนัน หวยใต้ดิน สถานบันเทิง และอื่นๆ

โดย : อดิศักดิ์ จำปาทอง กรุงเทพธุรกิจ
http://bit.ly/1eGgkdI

เรื่องนี้ถูกเขียนใน คณะนิเทศศาสตร์, งานประชาสัมพันธ์ รับนักศึกษา และติดป้ายกำกับ , , คั่นหน้า ลิงก์ถาวร

หนึ่งความเห็นตอบกลับที่ โฆษณาเลิกเมา เข้าพรรษา

  1. Brygida พูดว่า:

    Great blog. i didnt uderstand anything xD but this movie is good.

ใส่ความเห็น