วันที่ 8 ที่ลียง

PictDay7วันนี้เป็นอีกวันหนึ่งที่ใช้เวลาส่วนใหญ่ที่มหาวิทยาลัย Lyon จึงขอแบ่งปันประสบการณ์สัก 2-3 เรื่อง ที่ค้างไว้และยังไม่มีโอกาสเล่าให้ฟังกัน เรื่องแรกเป็นเรื่องขอคนฝรั่งเศสที่นิยมการอ่านหนังสืออย่างมาก ทั้งบนรถเมล์ ระหว่างรอรถ ขณะทานอาหารที่ร้าน รวมไปถึงการนั่งอ่านในสวนสาธารณะ บนเรือก็คงเช่นกันแต่ยังไม่มีโอกาสได้เห็น ทราบมาว่าคนฝรั่งเศสอ่านหนังสือมากเป็นอันดับต้นๆ ของโลก อยากให้เด็กไทยเป็นแบบนี้จัง เรื่องที่สองก็หนีไม่พ้นคนฝรั่งเศส แต่ไปเกี่ยวข้องกับวัฒนธรรมของเขาด้วย คือ คนที่นี่ทำงานตรงเวลา เลิกตรงเวลา และไม่อู้งาน พักเที่ยงได้ 2 ชั่วโมง (12.00 – 14.00) เวลาจะไปติดต่อราชการหรืองานใดๆ กับใคร จำเป็นต้องตรวจสอบเวลาให้แน่นอนก่อนเสมอ สามารถตรวจสอบได้ทาง internet คงจะจำได้บ้างที่ผมเล่าให้ฟังตอนไปรับเงินเบี้ยเลี้ยงของนักวิจัย ผมต้องไประหว่างเวลา 13.30-15.30 และเฉพาะบางวันเท่านั้น จะไปก่อนก่อนหรือหลังเวลานี้ ไม่ได้เด็ดขาด จะไม่ได้รับบริการไม่ว่ากรณีใดๆ ทั้งสิ้น เรื่องสุดท้ายในวันนี้ ต้องขอชื่นชมมากๆ ในการวางผังเมืองของที่นี่ ซึ่งเป็นอดีตเมืองหลวงของชาวโรมันมาก่อน โดยเฉพาะต้องขอเน้นเรื่อง Transportation (เมื่อก่อนต้องทำเส้นทางขึ้นไปบนเขาที่ตั้งของโบสถ์ในหลายแห่ง) โดยจะขอเน้นเรื่องขนส่งมวลชน มีบริการรถราง รถไฟฟ้าใต้ดิน และรถเมล์ ซึ่งเชื่อมต่อกันได้อย่างลงตัวและทั่วทั้งเมือง รถยนต์ถือเป็น Priority ต่ำสุด มาทีแรกก็ตกใจเพราะถนนรถรางกับรถยนต์ก็ใช้ร่วมกัน กลัวจะวิ่งชนกันจัง แต่ที่นี่เขารู้โดยอัตโนมัติว่า รถขนส่งมวลชนได้สิทธิ์สูงสุด แต่สำหรับคนมาใหม่ไ ต้องระวังอย่างมากเวลาเดินไปมาบนถนน และที่สำคัญกว่านั้นคือ คนพิการ โดยเฉพาะมนุษย์ล้อ สามารถเดินทางไปไหนมาไหนในเมืองได้อย่างสะดวก มีลิฟต์ขึ้นลงรถทุกประเภท ทุกสถานี และมีทางลาดสำหรับการไปไหนมาไหนโดยไม่ต้องพึ่งพาใคร และทุกคนก็ให้เกียรติคนพวกนี้ด้วย บ้านเราทั้ง 3 เรื่องนี้ ดูเหมือนจะยังห่างไกลสำหรับบ้านเรา

เรื่องนี้ถูกเขียนใน คอมพิวเตอร์ธุรกิจ และติดป้ายกำกับ คั่นหน้า ลิงก์ถาวร

2 ตอบกลับไปที่ วันที่ 8 ที่ลียง

  1. สวัสดี อ.บุ๋ม
    ติดภาระกิจพาแม่ไปลอยอังคาร และงานบวชของพ่อบุญธรรม ในวันครบรอบร้อยวันที่ท่านจากลูกและหลานๆๆ มีแต่ความทรงจำอันงดงามที่ติดในใจเท่านั้น ไม่เหมือนการบันทึกแบบอ.ยังกลับมายืนยันว่าเป็นจริง มีจริง แต่โลกของแม่อีกดนแดน สื่อไม่ได้ เข้ามาอ่านของอ.บุ๋มแล้วมีความสุข เหมือนสารคดี ได้ใจความมากเจ้า ขอให้อ.ทำภาระกิจด้วยดีตลอดงาน…….

  2. atichart พูดว่า:

    เชื่อว่าคุณแม่อาจารย์เข้าใจในความรู้สึกของลูกๆ และครอบครัวที่ทำเพื่อท่านในวาระสุดท้าย ผมเชื่อว่าเราสามารถสื่อสารท่านได้ เพราะผมเองเวาลานึกถึงคุณตาคุณยายทุกครั้ง จิตใจเราจะเบิกบานเหมือนท่านเข้าใจในสิ่งที่เราคิด ดังนั้น สิ่งสำคัญที่สุดในตอนนี้ ทำในสิ่งที่คนรอบข้างจะคิดถึงเราในแง่ดีไว้ เพราะเมื่อวันที่เราจากไปเช่นท่าน ขอให้เป็นประวัติศาสตร์ที่น่าทรงจำสำหรับคนรุ่นหลังต่อไป

ใส่ความเห็น