เรื่องเล่าจาก “โครงการอบรม เทคนิคการเขียนแผนการตลาดให้ได้ชัยชนะ”

อาจารย์ดรรชกร ศรีไพศาล และ อาจารย์สวรัย นัยนานนท์ จากคณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยเนชั่น ศูนย์เนชั่นบางนา ได้ พานักศึกษา

คณะนิเทศศาสตร์ ชั้นปีที่ 3 และ นักศึกษาคณะบริหารธุรกิจชั้นปีที่ 2 เข้าร่วม  “โครงการอบรม เทคนิคการเขียนแผนการตลาดให้ได้ชัยชนะ” จัดโดย สมาคมการตลาดแห่งประเทศไทย และบริษัท โออิชิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน 2556 ณ ห้องสยามมกุฎราชกุมาร อาคารเฉลิมพระบารมี ๕๐ ปี ซอยศูนย์วิจัย

download

 

1.เนื้อหาสาระของการฝึกอบรม/สัมมนา สรุปได้ดังนี้

บริษัท โออิชิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ OISHI โดยนายอนิรุทธิ์ มหธร  รองกรรมการผู้จัดการ สายงานธุรกิจเครื่องดื่ม นายสุธี ธรรมสิทธิ์บูรณ์   ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด สายงานธุรกิจเครื่องดื่ม ร่วมกับสมาคมการตลาดแห่งประเทศไทย โดย นางสาวอินทุ์อร สวัสดิ์อธิคม   ผู้อำนวยการบริหาร สมาคมการตลาดแห่งประเทศไทย เชิญชวนนิสิตนักศึกษาชั้นปีที่ 3 และ 4 ทั่วประเทศ ร่วมส่งไอเดียการตลาดนอกกรอบในการประกวดแผนการตลาดระดับประเทศ J-MAT Award ครั้งที่ 23 ประจำปี 2556 กับโจทย์สร้างสรรค์กลยุทธ์เครื่องดื่มชายอดนิยมให้ครองใจวัยทีน  ภายใต้หัวข้อ “สุดยอดชาเขียว…มัดใจวัยว้าวุ่น” ชิงโล่พระราชทานสมเด็จพระเทพฯ พร้อมด้วยทุนการศึกษาและผลิตภัณฑ์โออิชิรวมกว่า 500,000 บาท

อธิบายถึงข้อมูลของ บริษัท โออิชิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) และผลิตภัณฑ์ เพื่อให้นักศึกษาที่ร่วมโครงการได้รู้และเข้าใจในองค์กร และ ผลิตภัณฑ์

และได้แนะนำรายละเอียดการทำแผนการตลาด ว่าแต่ละส่วนมีความสำคัญอย่างไร

1. สถานการณ์ทางการตลาดในปัจจุบัน

2. การวิเคราะห์โอกาสจากสถานการณ์การตลาด

3. วัตถุประสงค์

4. กลยุทธ์ทางการตลาดวิเคราะห์ STP

5. แผนการดำเนินงานเพื่อให้ที่รู้จัก

6. แผนการเงิน

7. แผนควบคุมการปฏิบัติงานเพื่อทำการปรับปรุงแก้ไขให้ตรงความค้องการลูกค้ามากขึ้น และยังมีแผนการงานเงินสำรองกรณีฉุกเฉินต่างๆ รวมถึงให้ความสำคัญกับสินค้าเสริมอื่นๆ

การทำแผนการตลาดสำหรับธุรกิจเพื่อเป็นแนวทางและสร้างความราบรื่นในการทำธุรกิจ มุมมองทางการตลาดและไหวพริบก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่บรรดานักศึกษาควรฝึกไว้ เพราะทุกอย่างอาจไม่ได้เป็นไปตามแผนเสมอไป การหัดแก้ปัญหาเฉพาะหน้าจึงเป็นทักษะที่ต้องมีควบคู่ไปกับวางแผน

2. ประโยชน์ที่นักศึกษาสามารถนำมาใช้กับการการเรียนการสอนได้ ดังนี้

นักศึกษาบริหารธุรกิจ ชั้นปีที่ 2 และ นักศึกษานิเทศศาสตร์ ชั้นปีที่ 3 ยังไม่ได้เรียนวิชาแผนการตลาด แต่นักศึกษาทั้ง 2 คณะจะเข้าใจถึงความสำคัญของการวางแผนก่อนดำเนินการ วิธีการวางแผนที่ดี เพื่อประโยชน์ต่อการเรียนการสอนในวิชา การวางแผนการตลาด ในชั้นปีที่ 3 ของนักศึกษาบริหารธุรกิจ และ เพื่อประโยชน์ด้านมุมมองของการตลาด ที่ช่วยส่งเสริมนักนิเทศศาสตร์ ในการเรียนวิชาโทได้เป็นอย่างดี

3. ความเห็น/ข้อเสนอแนะอื่นๆ

เป็นการเตรียมลับสมอง และ สร้างสรรค์ไอเดียการตลาดนอกกรอบกันให้เต็มที่ และเพื่อสนับสนุนให้นักศึกษารู้และเข้าใจ การวางแผนการตลาด เป็นอีกกลยุทธ์ ที่สำคัญมากในการทำธุรกิจ เพราะการเดินหน้าลุยทำธุรกิจแบบไม่มีการวางแผนก็มีสิทธิเกิดความผิดพลาด หรืออาจเกิดผลดีต่อธุรกิจน้อยเกินไปเมื่อเทียบกับเวลาและทรัพยากรที่ลงทุนไป ความสำคัญของการทำแผนการตลาดจึงอยู่ที่การดูความเป็นไปของธุรกิจในตลาดที่เรากำลังจะลงไปแข่งขัน ทำความเข้าใจจุดอ่อนจุดแข็งของตัวเราเอง โอกาสและความเสี่ยง และการกำหนดกลยุทธ์ในการทำงานเพื่อให้เกิดผลดีและผลกำไรสูงสุด

2014-06-05_182335 2014-06-05_182401

 

โพสท์ใน ทั่วไป | ปิดความเห็น บน เรื่องเล่าจาก “โครงการอบรม เทคนิคการเขียนแผนการตลาดให้ได้ชัยชนะ”

แบ่งปันจากการอบรม“ลูกเล่นใหม่ๆ สำหรับการบริหารและพัฒนาบุคลากรแบบสร้างสรรค์ ( Creative HRM&HRD)”

อยากจะแบ่งปันเรื่องที่ได้ไปอบรมสัมมนา ในหัวข้อ “ลูกเล่นใหม่ๆ สำหรับการบริหารและพัฒนาบุคลากรแบบสร้างสรรค์ (Creative HRM&HRD)” โดย ท่านอาจารย์ศรัณย์ จันทพลาบูรณ์ เป็นผู้บรรยาย จัดโดย หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ ที่ โรงแรม สยาม@สยาม มาคะ

pr_news_img_36185_1

รูปแบบการอบรม

50% ทฤษฎี
35% กิจกรรมกระตุ้นต่อมคิด
15 % ถาม-ตอบ

 

          เนื้อหาโดยรวม

  • ขาย “ความคิด” กับกิจกรรมพัฒนาพนักงานให้ผู้บริหารยอมรับ
  • ทำแบบสอบถามวิเคราะห์แนวทางเสริมสร้างนวัตกรรมบุคคล (Personal Innovative Competency)
  • เรียนรู้กิจกรรม HR จากหลากหลายองค์กรในสหรัฐอเมริกา เพื่อพัฒนาการทำงานของบุคลากรให้มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลสูงขึ้น
  • ใช้ความคิดสร้างสรรค์เพื่อพบไอเดียใหม่ในการบริหารบุคลากรให้แข็งแกร่ง
  • การพัฒนาประสิทธิภาพส่วนบุคคลด้วย HPI (Human Performance Improvement)
  • 12Q ที่ให้พนักงานใช้ศักยภาพในการทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
  • การประเมินความถนัดด้านการคิดสร้างสรรค์ ด้วยการประยุกต์ใช้ MBTI (Myers-Briggs Type Indicator)
  • วิเคราะห์ เลือก และประยุกต์กิจกรรมต่างๆ สู่การทำงานจริง
  • เพื่อกระตุ้นการทำงานของพนักงาน แบบรายบุคคล ทีม และ องค์กร
  • เพื่อกระตุ้นพนักงานให้คิดนอกกรอบเพื่อพัฒนาคุณภาพงาน
  • เพื่อมอบรางวัลแก่พนักงานทั้งแบบเป็นทางการและไม่เป็นทางการ

รายละเอียดตามเนื้อหาการเข้าอบรม

          วิทยากรให้ ผู้เข้าร่วมอบรม ฝึกการคิดแบบคร่อมกรอบ โดยการจัดทำเป็น PPCO  ซึ่งประกอบด้วย

Pluses           : ข้อดีในปัจจุบัน

Potentials       : ข้อดีในอนาคต

Concerns       : ติด แต่ว่า  กังวล

Opportunities : หลบ เลี่ยง ทะลุ

เทคนิคการคิดสร้างสรรค์ คือ คิดออกนอกกรอบไปก่อน (Think out of box) แต่ไอเดียที่ได้ มักเป็นไอเดียที่เพ้อเจ้อ ใช้จริงไม่ได้ เปรียบเหมือนผลไม้ดิบที่ยังทานไม่ได้ ต้องทำการดัด หรือบ่มความคิดให้สุกก่อน ด้วย PPCO

โดยการให้จับกลุ่ม 2-3 คน แล้ว จับฉลากหัวข้อ “11.5 ของการบริหารงานแปลกๆ ให้เกิดความคิดใหม่” ซึ่งประกอบด้วย

1. รับคนที่เรียนรู้ช้า (ด้านการปรับตัวเข้ากับองค์กร)

1.5 รับคนใหม่ที่คุณไม่ค่อยชอบ

2. รับคนที่ดูเหมือนจะไม่จำเป็น

3. ใช้การสัมภาษณ์งานเพื่อหาความคิดใหม่

4. สนับสนุนให้พนักงานให้ดื้อดึงกับหัวหน้า

5. มองหาคนที่มีความสุข

6. ให้รางวัลกับคนที่ทำงาน และลงโทษการไม่ทำอะไร

7. ตัดสินใจทำสิ่งที่เหมือนจะล้มเหลวแต่ชักจูงทุกคนว่าต้องสำเร็จ

8. ทำสิ่งที่ดูเหมือนไร้สาระหรือเป็นไปไม่ได้

9. หลีกเลี่ยงการคุยกับคนที่เห็นแต่เรื่องเงิน

10. อย่าเรียนรู้จากคนที่น่าจะแก้ปัญหาให้เราได้

11. ลืมอดีต โดยเฉพาะเรื่องความสำเร็จ

 

ความคิดเห็นของกลุ่ม ในหัวข้อที่ 2 “รับคนที่ดูเหมือนจะไม่จำเป็น”

P : ข้อดี คือ อาจจะใช้เทคนิคที่ชำนาญงานด้านอื่นมาปรับปรุงพัฒนางานที่จะต้องทำให้ดึมากขึ้น เช่น รับคนจบ IT มาทำงาน ฝ่ายบัญชี ก็ อาจจะมาคิดค้นวิธีการทำงานให้รวดเร็ว รัดกุมมากขึ้น

P : งานจะเกิดประสิทธิภาพ และประสิทธิผล

C : ติดเรื่องของเนื้อหาของงาน อาจจะต้องใช้ความรู้ความชำนาญเป็นพิเศษ  และ ข้อกฎหมายอาจบังคับให้ต้องเป็นคนที่จบตรงสายงานถึงทำงานนั้นๆ ได้ และติดที่จะต้องจ่ายค่าใช้จ่ายในการจ้างพนักงานที่ไม่จำเป็นมาทำงาน

O : ก็สอนงานและให้งานที่สามารถช่วยเหลืองานได้ และลดค่าใช้จ่ายโดยการ จ้างเป็น ContactParttime หรือ นักศึกษาฝึกงานก็ได้

 

วิทยากรให้ บรรยายเรื่อง “12Q”  ว่ามีผลการศึกษา เกี่ยวกับผลการทำงานของพนักงานยอดเยี่ยม เลือกเฉพาะคำถามที่เกิดผลต่างกันระหว่างสองกลุ่ม (High VS.Low) สรุปได้ 12 คำถาม ซึ่งพนักงานยอดเยี่ยมจะต้องตอบ Yes ส่วนพนักงานยอดแย่จะตอบ No ใน 12 คำถาม ดังนี้

1. ฉันรู้ว่าสิ่งที่ฉันถูกคาดหวังในการทำงานคืออะไร

2. ฉันมีอุปกรณ์ และเครื่องมือที่จำเป็นในการทำงานของฉัน

3. ในการทำงานฉันมีโอกาสทำให้สิ่งที่ฉันทำได้ดีที่สุดทุกวัน

4. ในระยะเวลา 7 วัน ที่ผ่านมาล่าสุด ฉันได้รับการยกย่องชมเชยจากการทำงานดี

5. หัวหน้าโดยตรงของฉัน หรือคนอื่นๆ ในที่ทำงาน แสดงออกว่าแคร์ฉัน

6. คนในที่ทำงานที่คอยสนับสนุฉันให้พัฒนาตนเอง

7. คนในที่ทำงานรับฟังความเห็นของฉัน

8. ภารกิจหรือเป้าหมายขององค์กรทำให้ฉันรู้สึกได้ว่างานของฉันนั้นมีความสำคัญ

9. เพื่อนร่วมงานของฉันมีความมุ่งมั่นที่จะทำงานอย่างมีคุณภาพ

10. ฉันมีเพื่อนที่ดีในที่ทำงาน

11. ในระยะเวลา 6 เดือนที่ผ่านมา มีคนในที่ทำงานพูดคุยกับฉันเกี่ยวกับความก้าวหน้าในหน้าที่การงานของฉัน

12. ในระยะเวลา 1 ปีที่ผ่านมาล่าสุด ฉันมีโอกาสได้เรียนรู้ และเติบโตในการทำงาน

สุดท้าย วิทยากรให้ทำแบบทดสอบวิเคราะห์แนวทางเสริมสร้างนวัตกรรมบุคคล

Clarifier : ชอบหารายละเอียดข้อมูล ก่อนที่จะสรุปคำตอบ

Ideator: ชอบคิดหาไอเดียใหม่ๆ มองภาพรวมมากกว่ารายละเอียด

Developer :  ชอบคิดวิเคราะห์ หาแนวทางแก้ปัญหา พัฒนาแนวคิดสู่การนำไปใช้

Implementer : ชอบลงมือปฏิบัติ Learning by Doing

จากการสัมมนาครั้งนี้ หวังเป็นอย่างยิ่งว่า จะมีประโยชน์กับท่านผู้อ่านนะคะ

20140515_16013520140515_133534

 

by Savarai Naiyananont

 

โพสท์ใน ทั่วไป | ปิดความเห็น บน แบ่งปันจากการอบรม“ลูกเล่นใหม่ๆ สำหรับการบริหารและพัฒนาบุคลากรแบบสร้างสรรค์ ( Creative HRM&HRD)”

ส่งภาพเข้าผิดห้อง ทำให้ไม่แสดงผลใน blog ตามปกติ

media directory

media directory

หลายวันมานี้ ส่งภาพ image เข้า blog แล้วหาย
ไม่ฟ้อง error เหมือนปัญหาทั่ว ๆ ไป
เหมือนส่งเข้าได้ปกติ แต่กลับไม่แสดงผล
ก็คิดว่าเป็นปัญหาที่ระบบ directory
วันนี้นั่งหาวิธีแก้ไขว่าอะไรคือสาเหตุ

สุดท้ายก็พบว่า wordpress ที่เริ่ม post แรก
ตั้งแต่ 8 เมษายน 2009 นั้น มีการย้ายระบบมาหลายรอบ
อัพเกรดก็หลายครั้ง ล่าสุดเดือนกุมภาพันธ์ 2557
มีการย้ายจาก appserv เป็น xampp
แต่มีค่า config ใน mysql ได้บันทึกชื่อ directory ไว้
สำหรับห้องเก็บ media เมื่อย้าย directory ของ script
แต่ไม่ไปแก่ config ก็ทำให้ระบบสับสนว่าจะเลือกห้องเก็บภาพที่ไหน
ตอนส่งภาพเข้าไป ก็ส่งเข้าห้องเก่า แต่ตอนเรียกใช้ กลับเรียกจากห้องใหม่
จากความพยายามหาว่าอะไรคือสาเหตุ ก็ได้มีการ upgrade version
เป็น 3.9.1 เป็นที่เรียบร้อย ดูทันสมัยขึ้นพอสมควร

โพสท์ใน วิทยาการคอมพิวเตอร์ | ติดป้ายกำกับ , , , , | ปิดความเห็น บน ส่งภาพเข้าผิดห้อง ทำให้ไม่แสดงผลใน blog ตามปกติ

ประชุมเพื่อวิพากษ์ (ร่าง) คู่มือการประกันคุณภาพการศึกษาภายในสถานศึกษา

ประชุมเพื่อวิพากษ์  (ร่าง) คู่มือการประกันคุณภาพการศึกษาภายในสถานศึกษา
ประชุมเพื่อวิพากษ์
(ร่าง) คู่มือการประกันคุณภาพการศึกษาภายในสถานศึกษา

แบ่งปันสิ่งที่ได้เรียนรู้จากการประชุมเพื่อวิพากษ์
(ร่าง) คู่มือการประกันคุณภาพการศึกษาภายในสถานศึกษา
ระดับอุดมศึกษา พ.ศ.2557
เมื่อวันจันทร์ที่ 26 พฤษภาคม 2557 ณ โรงแรมอิมพีเรียลแม่ปิง จ.เชียงใหม่

จากการนำเสนอร่างคู่มือให้วิพากษ์ แสดงความคิดเห็น ก่อนนำข้อเสนอแนะจาก 9 เครือข่าย
ไปพิจารณาปรับเป็นเล่มสมบูรณ์นั้น เริ่มวิพากษ์โดย รศ.ศรีสมรัก อินทุจันทร์ยง
ชี้แจงตัวบ่งชี้ว่ามีการแบ่งเป็น 3 ระดับการประกันคุณภาพการศึกษา
คือ หลักสูตร คณะวิชา และมหาวิทยาลัย
แล้วแต่ละระดับยังแบ่งออกเป็นเกณฑ์ของระดับการศึกษา
คือ ปริญญาตรี ปริญญาโท และปริญญาเอก
ซึ่งกระผมสนใจส่วนของปริญญาตรีเป็นหลัก
พบว่า
ตัวบ่งชี้ 1.1 – 1.14 เป็นของระดับหลักสูตร
ตัวบ่งชี้ 2.1 – 2.8 เป็นของระดับคณะวิชา
ตัวบ่งชี้ 3.1 – 3.10 เป็นของระดับมหาวิทยาลัย

หลังการชี้แจงมีการแบ่งกลุ่มของหลักสูตร กับ กลุ่มคณะวิชาและสถาบัน
เพื่อรับข้อเสนอแนะจากที่ประชุม เพื่อนำเสนอต่อคณะกรรมการจัดทำคู่มือ เป็นลำดับต่อไป
โดยมี รศ.อุษณีย์ คำประกอบ เป็นผู้นำกลุ่มคณะวิชาและสถาบัน
แล้วกลุ่มหลักสูตรมี ศ.ดร.วัชระ กสิณฤกษ์ และนพ.ณัฐพงษ์ อัครผล (คุณหมอต้น) ร่วมกันดำเนินการ

สำหรับรายละเอียดของตัวบ่งชี้ ปี 2557 นั้น พบว่า
ตัวบ่งชี้ 1.1 ถูกเรียกว่า ตัวบ่งชี้มาตรฐาน หากไม่ผ่านเกณฑ์ใดเกณฑ์หนึ่ง ให้ผลประเมินเป็น 0 และไม่ต้องประเมินตัวบ่งชี้พัฒนาอีก 13 ตัวบ่งชี้ ซึ่งตัวบ่งชี้มาตรฐานมีเกณฑ์ระดับปริญญาตรี ดังนี้
1.จำนวนอาจารย์ประจำหลักสูตร ไม่น้อยกว่า 5 คน และเป็นเกิน 1 หลักสูตรไม่ได้
2.คุณสมบัติของอาจารย์ประจำหลักสูตร มีวุฒิระดับปริญญาโท หรือสัมพันธ์กับสาขาวิชาที่เปิดสอน
3.คุณสมบัติของอาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตร มีวุฒิไม่ต่ำกว่าปริญญาโท หรือตำแหน่ง ผศ.อย่างน้อย 2 คน
4.มีการปรับปรุงหลักสูตรไม่เกินรอบระยะเวลาที่กำหนด
5.การดำเนินงานให้เป็นไปตามตัวบ่งชี้ผลการดำเนินงานเพื่อการประกันคุณภาพ หลักสูตรและการเรียนการสอนตามกรอบมาตรฐานคุณวุฒิระดับอุดมศึกษาแห่งชาติ โดยต้องผ่านตัวบ่งชี้ TQF ข้อ 1 – 5 ทุกตัว

ตัวบ่งชี้ 1.2 ร้อยละของอาจารย์ประจำสังกัดหลักสูตรที่มีคุณวุฒิปริญญาเอก
ตัวบ่งชี้ 1.3 ร้อยละของอาจารย์ประจำสังกัดหลักสูตรที่ดำรงตำแหน่งทางวิชาการ
ตัวบ่งชี้ 1.4 ผลงานวิชาการของอาจารย์ประจำสังกัดหลักสูตร
ตัวบ่งชี้ 1.5 จำนวนบทความของอาจารย์ประจำหลักสูตรปริญญาเอกที่ได้รับการอ้างอิง
ในวารสารระดับชาติหรือนานาชาติต่อจำนวนอาจารย์ประจำหลักสูตร
ตัวบ่งชี้ 1.6 สัดส่วนจำนวนนักศึกษาเต็มเวลาเทียบเท่าต่อจำนวนอาจารย์ประจำสังกัดหลักสูตร
ตัวบ่งชี้ 1.7 กระบวนการจัดการเรียนรู้และการบูรณาการกับงานวิจัย
การบริการวิชาการ การทำนุบำรุงศิลปะและวัฒนธรรม
ตัวบ่งชี้ 1.8 การบริหารหลักสูตร
ตัวบ่งชี้ 1.9 การประเมินผลผู้เรียน
ตัวบ่งชี้ 1.10 การดูแล ช่วยเหลือ และสนับสนุนนักศึกษา
ตัวบ่งชี้ 1.11 คุณภาพของผู้สำเร็จการศึกษาตามกรอบมาตรฐานคุณวุฒระดับอุดมศึกษาแห่งชาติ
(ป.ตรี โท เอก) (ประเมินจากผู้ใช้บัณฑิต)
ตัวบ่งชี้ 1.12 ผลงานของผู้สำเร็จการศึกษาในระดับปริญญาโท ที่ได้รับการตีพิมพ์เผยแพร่
ตัวบ่งชี้ 1.13 ผลงานของผู้สำเร็จการศึกษาในระดับปริญญาเอก ที่ได้รับการตีพิมพ์เผยแพร่
ตัวบ่งชี้ 1.14 ร้อยละของบัณฑิตปริญญาตรีที่ได้งานทำหรือประกอบอาชีพอิสระภายใน 1 ปี
การประเมินในระดับคณะ
ประกอบด้วยผลการดำเนินงานระดับหลักสูตร และเพิ่มเติมตัวบ่งชี้ที่ดำเนินการในระดับคณะ จำนวนรวม 8 ตัวบ่งชี้
+ การผลิตบัณฑิต มี 3 ตัวบ่งชี้
ตัวบ่งชี้ 2.1 ผลการประเมินระดับหลักสูตร
(ค่าเฉลี่ยของระดับคุณภาพของทุกหลักสูตรที่คณะรับผิดชอบ)
ตัวบ่งชี้ 2.2 การบริการนักศึกษา (ถ้ามี)
ตัวบ่งชี้ 2.3 กิจกรรมนักศึกษา (ถ้ามี)
+ การวิจัย มี 3 ตัวบ่งชี้
ตัวบ่งชี้ 2.4 ระบบและกลไกการบริหารและพัฒนางานวิจัยหรืองานสร้างสรรค์ (ถ้ามี)
ตัวบ่งชี้ 2.5 เงินสนับสนุนงานวิจัยและงานสร้างสรรค์ต่อจำนวนอาจารย์ประจำและนักวิจัยประจำ
ตัวบ่งชี้ 2.6 ผลงานวิชาการของอาจารย์ประจำ และนักวิจัยประจำ
+ การบริการวิชาการ มี 1 ตัวบ่งชี้
ตัวบ่งชี้ 2.7 การบริการวิชาการแก่สังคม
+ การบริหารจัดการ มี 1 ตัวบ่งชี้
ตัวบ่งชี้ 2.8 การบริหารของคณะเพื่อการกำกับติดตามผลลัพธ์

การประเมินในระดับสถาบัน
ประกอบด้วยผลการดำเนินงานระดับหลักสูตร ระดับคณะ และเพิ่มเติมตัวบ่งชี้ที่ดำเนินการในระดับสถาบัน จำนวนรวม 10 ตัวบ่งชี้
+ การผลิตบัณฑิต มี 3 ตัวบ่งชี้
3.1 ผลการประเมินระดับหลักสูตร
(ค่าเฉลี่ยของระดับคุณภาพของทุกหลักสูตรที่คณะรับผิดชอบ)
3.2 การบริการนักศึกษา
3.2 กิจกรรมนักศึกษา
+ การวิจัย มี 3 ตัวบ่งชี้
3.4 ระบบและกลไกการบริหารและพัฒนางานวิจัยหรืองานสร้างสรรค์
3.5 เงินสนับสนุนงานวิจัยและงานสร้างสรรค์ต่อจำนวนอาจารย์ประจำและนักวิจัยประจำ
3.6 ผลงานวิชาการของอาจารย์ประจำและนักวิจัยประจำ
+ การบริการวิชาการ มี 1 ตัวบ่งชี้
3.7 การบริการวิชาการแก่สังคมเพื่อสร้างความเข้มแข็งแก่ชุมชนและสังคม
+ การทำนุบำรุงศิลปะและวัฒนธรรม มี 1 ตัวบ่งชี้
3.8 ระบบและกลไกการทำนุบำรุงศิลปะและวัฒนธรรม
+ การบริหารจัดการ มี 2 ตัวบ่งชี้
3.9 การบริหารของสถาบันเพื่อการกำกับติดตามผลลัพธ์ตามพันธกิจและกลุ่มสถาบัน
3.10 ผลการบริหารงานของคณะ
(คะแนนเฉลี่ยของผลการประเมินระดับคุณทุกคณะ)
http://thainame.net/edu/?p=3754
http://www.scribd.com/doc/221987061/

สำหรับ ตัวบ่งชี้ผลการดำเนินงานตามกรอบมาตรฐานคุณวุฒิระดับอุดมศึกษา ที่อ้างอิงในเกณฑ์ที่ 12 ของตัวบ่งชี้ 1.1 ว่าต้องผ่าน 1 – 5 ตัวบ่งชี้แรกนั้น มีตัวบ่งชี้ดังนี้
1.อาจารย์ประจำหลักสูตรอย่างน้อยร้อยละ 80 มีส่วนร่วมในการประชุมเพื่อวางแผน ติดตาม และทบทวนการดำเนินงานหลักสูตร
2.มีรายละเอียดของหลักสูตร ตามแบบ มคอ.2 ที่สอดคล้องกับกรอบมาตรฐานคุณวุฒิระดับอุดมศึกษาแห่งชาติ หรือมาตรฐานคุณวุฒิสาขา/สาขาวิชา (ถ้ามี)
3.มีรายละเอียดของรายวิชา และรายละเอียดของประสบการณ์ภาคสนาม (ถ้ามี) ตามแบบ มคอ.3 และ มคอ.4 อย่างน้อยก่อนการเปิดสอนในแต่ละภาคการศึกษาให้ครบทุกรายวิชา
4.การจัดทำรายงานผลการดำเนินการของรายวิชา และรายงานผลการดำเนินการของประสบการณ์ภาคสนาม (ถ้ามี) ตามแบบ มคอ.5 และ มคอ.6 ภายใน 30 วัน หลังสิ้นสุดภาคการศึกษาที่เปิดสอนให้ครบทุกรายวิชา
5.จัดทำรายงานผลการดำเนินการของหลักสูตร ตามแบบ มคอ.7 ภายใน 60 วัน หลังสิ้นสุดปีการศึกษา

ซึ่งเกณฑ์ทั้ง 5 ข้อจากทั้งหมด 12 ข้อนี้ อยู่ในคู่มือการประกันคุณภาพการศึกษา ของสกอ.
http://www.arc.cmu.ac.th/newmis/qa/manual/intro_manual_2553.pdf หน้า 160

การประชุมครั้งนี้มีบุคลากรของมหาวิทยาลัยเข้าร่วมทั้งสิ้น 11 คน คือ
1. คุณภูษณิศา              เนตรรัศมี
2. อ.อัศนีย์                  ณ น่าน
3. อ.ศรีเพชร                สร้อยชื่อ
4. อ.อาภาพร                ยกโต
5. อ.ฉัตรชัย                  หมื่นก้อนแก้ว
6. อ.คนึงนิจ                  ติกะมาตรย์
7. อ.ศศิวิมล                  แรงสิงห์
8. อ.เกศริน                   อินเพลา
9. ผศ.บุรินทร์              รุจจนพันธุ์
10. อ.ปฏิญญา          ธรรมเมือง
11. อ.ดร.วันชาติ      นภาศรี

โพสท์ใน ทั่วไป | ติดป้ายกำกับ , , | ปิดความเห็น บน ประชุมเพื่อวิพากษ์ (ร่าง) คู่มือการประกันคุณภาพการศึกษาภายในสถานศึกษา

แนะนำโปรแกรมเกี่ยวกับเสียง สำหรับผู้จัดรายการวิทยุ

แนะนำโปรแกรมเกี่ยวกับเสียง สำหรับผู้จัดรายการวิทยุ

adobe audition

การใช้โปรแกรมจัดการเสียง
ด้วย Adobe Audition
สำหรับผู้จัดรายการวิทยุชุมชน
ในการเตรียมเสียงมาเปิดที่สถานี
https://www.facebook.com/groups/tourlampang/800107180008575/

การใช้โปรแกรม CDEX
สำหรับบันทึกเสียงจาก Analog Input
หรือ ไมโครโฟน นั่นเอง
เป็นโปรแกรมขนาดเล็กใช้ง่าย
และยังแปลง audio cd มาเป็น mp3 ได้ง่าย
https://www.facebook.com/groups/tourlampang/800107083341918/

การใช้โปรแกรม Sound Recorder ของ Windows
และแนะนำโปรแกรมกลุ่ม audio player
ซึ่งเป็นโปรแกรมพื้นฐานที่มีมากับ windows
สมัยนี้บันทึกเสียงได้ง่ายกว่าแต่ก่อนมาก
เพราะอุปกรณ์รอบตัวเรา รองรับกันหมด
https://www.facebook.com/groups/tourlampang/800108156675144/

โพสท์ใน ทั่วไป | ติดป้ายกำกับ , | ปิดความเห็น บน แนะนำโปรแกรมเกี่ยวกับเสียง สำหรับผู้จัดรายการวิทยุ

การเป็นนักเขียนไม่ยาก แต่ก็ไม่ง่าย

เมื่ออลิซยังไม่ประสีประสา เธอก็ติดตามพี่ชายไปเที่ยวอยู่บ่อยครั้ง แล้วเย็นวันหนึ่งต้นฤดูหนาวปี 1992 เธอขอตามพี่ชายไปงานพรอม งานเต้นรำฉลองความสำเร็จของโรงเรียนคีทเบท ซึ่งพอลพี่ชายก็ตื่นเต้นไม่น้อยไปกว่าอลิซน้องสาว ….

“โอ…พี่เราแสนดีจริงๆ ช่างเลือกเราให้ไปเป็นคู่เต้นรำ คืนนี้…จะเลือกชุดไหนดีเนี่ย…สีฟ้าขาว ชมพูเขียว หรือม่วงแดง ช่างแม็ตกันไปซะหมด ใส่อย่างไหนก็สวย พี่ชายที่แสนดีตะโกนมาจากห้องนอนข้างๆ…”  พอลแอบได้ยินอลิซบ่นข้ามห้อง

“อลิซ อย่าลืมใส่รองเท้าคู่ที่พี่ซื้อให้เมื่อเสาร์ที่แล้วนะ” พอลตะโกนบอก พร้อมฮัมเพลงเบาๆ ลอยมา…. Young ones,….Darling we’re young ones….

———————————————————

ณ วันนั้นเป็นจุดเปลี่ยนที่อลิซหวนนึกทุกครั้ง ก็เจ็บปวดทุกครั้ง แมททิวก้าวเข้ามาในชีวิตของเธออย่างไม่ตั้งตัว จะให้เธอฝืนชะตาชีวิตได้อย่างไร ในเมื่อชายหนุ่มหล่อจนใครๆ ในงานสะดุดหกล้ม อลิซเช่นกัน เธอกระดกแก้วยินหกใส่ชุดใหม่ม่วงแดงเลอะเทอะ เจ้าชายในคราบซาตานวันนั้น ดูดีเพียบพร้อมกับสาวๆ เกือบทุกคนในงาน หัวใจสาวน้อยเต้นแทบไม่เป็นจังหวะเมื่อแมททิวหันมาซบตาเธอ ในที่สุดแมททิวก็ย่างก้าวเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของลมหายใจของอลิซ ไม่ว่าเธอจะทำอะไร ก็ให้คิดถึงเขาอยู่ตลอด…แทบเป็นบ้า

—————————————————————————

“ตกลงว่า ฉันขอฟ้องหย่าข้อหาที่เธอคบชู้ทั้งที่มีฉันอยู่” อลิซจำคำพูดนี้ได้ดีเมื่อทนายยื่นคำขาดไป

“ผู้ชายเทห์ หล่อ สตางค์ก็พอมี ดูจะเข้าท่าสำหรับสาวๆ….” เจนนี่เพื่อนสนิท คอยเป็นกำลังใจให้อลิซ และลุ้นอยู่ห่างๆ ว่า ผลจะออกมาอย่างไร

“เวรกรรมแท้ๆ ที่ไปเจอผู้ชายกะล่อนแบบนี้เข้า…ลืมมันไปเถอะ เขาไม่คู่ควรกับเธอหรอก ” เจนปลอบเธอให้คลายความทุกข์ลงบ้าง

————————————————————————-

แม่เพื่อนตัวดีลับหลังแอบกินขนมของรักของอลิซจนได้ จะไม่ให้เจ็บไปถึงก้นทรวงได้ยังไง ในเมื่อเพื่อนรักกลายเป็นแม่มดเสกเอาคนรักเธอไป…..

Sad movies always make me cry…

He said he had to work so I went to the show alone

They turned down the lights and turned the projector on

And just as the news of the world started to begin

I saw my darlin’ and my best friend walk in

Though I was sittin’ there they didn’t see
And so they sat right down in front of me
When he kissed her lips I almost died
And in the middle of the color cartoon I started to cry.

Oh-oh-oh sa-a-a-d movies always make me cry
Oh-oh-oh sa-a-a-d movies always make me cry
And so I got up and slowly walked on home
And mama saw the tears and said “what’s wrong?”
And so to keep from telling her a lie
I just said “sa-a-a-d movies make me cry”
Oh-oh-oh sa-a-a-d movies always make me cry
Oh-oh-oh sa-a-a-d movies always make me cry
Ooh, ooh, ooh, ooh, ooh
Ooh, ooh, ooh, ooh
Sa-a-a-d movies make me cry….

จากที่อ่านเรื่องย่อข้างต้น ลองคาดเดาดูว่า เป็นเรื่องแปล หรือเรื่องเขียนขึ้น ทุกคนไม่มีใครไม่เคยได้อ่านนิยาย เรื่องสั้น เรื่องย่อ แน่นอนเราทุกคนย่อมหนีไม่พ้นกับการอ่านเรื่องเล่า เรื่องจริงผสมนิยาย เรื่องกุขึ้นมาในวัน April’s Fool Day (วันหลอกลวงโลก) ที่ชาวตะวันตกนิยมคิดขึ้นมาไว้ล้อเล่น (kidding) สำหรับคนกันเอง คนรู้จักหรือไม่รู้จัก เพื่อชวนหัว ตลกกันไป เพื่อจรรโลงให้โลกดูสวยงาม

อาชีพนักเขียนเป็นอาชีพต้นๆ ที่ทำรายได้ให้มนุษย์ที่เคยมีชีวิตอยู่บนโลกใบนี้ ซึ่งแต่เดิมแทบไม่พอยาใส้ ด้วยความทุกข์ทรมานที่เขียนเรื่องขึ้นมาแล้ว กลับขายเรื่องได้ไม่พอประทังชีวิต ซึ่งเคยมีคำพูดว่า “เป็นนักเขียน…ไส้แห้ง” เมื่อนักเขียนบางคนลาลับจากโลกนี้ไป แต่ผลงานกลับยังอยู่ ถึงครานี้แหละที่ผลงานกลับทำชื่อเสียงและรายได้ด้วยตัวมันเองอย่างมหาศาล

คนที่มีแรงบันดาลใจมากมายอยากเขียนหนังสือแต่เมื่อเจอกับคำพูดว่า “ไส้แห้ง” หรือ “ไม่มีใครอ่านผลงาน” เหล่านี้เป็นอุปสรรคสร้างความท้อแท้ ท้อถอยให้กับตนเอง

ลองมาดูกันว่า อาชีพนักเขียนระดับโลก มีรายได้กันขนาดไหน จากการจัดอันดับของ Forbes ปี 2013

อันดับ 11  ไม่ใช่ใครอื่น เธอคือ J.K. Rowling  ผู้เขียน Harry Potter วรรณกรรมก้องโลก มีรายได้อยู่  17 ล้านดอลล่าร์

อันดับ 10 Dean Koontz ผู้เขียนนวนิยายแนวสยองขวัญ ฆาตกรรม รายได้อยู่ที่ 19 ล้านดอลล่าร์

อันดับ 9  Suzanne Collins นวนิยายที่นำไปสร้างหนังชื่อ Hunger Games รายได้อยู่ที่ 20 ล้านดอลล่าร์

อันดับ 8   Danielle Steel นักเขียนนวนิยายสุดหวานโรแมนติก ขายได้กว่า 580 ล้านเล่มทั่วโลก เป็นนักเขียน the 8th best sellers of the world รายได้อยู่ที่ 23 ล้านดอลล่าร์

อันดับ 7  Nora Roberts  นักเขียนนวนิยายแนว Romance & Fantasy เช่นกัน มีผลงานกว่า 200 เล่ม ใช้นามปากกา J.D. Robb ด้วย รายได้อยู่ที่ 23 ล้านดอลล่าร์

อันดับ 6  Bill O’Reilly ผู้ประกาศข่าว Fox News  ได้หันมาเอาดีการเขียนหนังสือเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ เรื่อง “Killing Lincoln”, “Killing Kennedy” ก็เป็นผลงานของเขาคนนี้ มีรายได้อยู่ที่ 24 ล้านดอลล่าร์

อันดับ 5  Jeff Kinny ผู้โด่งดังจากการเขียนนิยายหนึ่งในซีรีส์ “Wimpy Kid” ยอดฮิตติดอันดับหนังสือขายดี ปี 2011 คือ “Cabin Fever” หนุ่มอายุ 43 ปี คนนี้มีรายได้อยู่ที่ 25 ล้านดอลล่าร์

อันดับ 4  John Grisham นักเขียนรูปงามรายนี้อายุ 59 ปี แต่ยังหล่อเฟี้ยว นวนิยายที่เขียนแนวสยองขวัญ ฆาตกรรมสืบสวน และแนวกีฬาเบสบอล จบด้านกฎหมาย เคยเป็นสส.ของรัฐมิสซิสซิปปี้ เมื่อปี 1984-1990 เริ่มเขียนนิยายเรื่องแรก A Time to Kill เมื่อปี 1984 ตีพิมพ์ปี 1989  ในปี 2012 หนังสือเขาขายได้ 275 ล้านเล่มทั่วโลก รายได้อยู่ที่ 26 ล้านดอลล่าร์

อันดับ 3  Janet Evanovich  นักเขียนนิยายโรมานซ์อีกคนที่มีผลงานโด่งดังจากเรื่อง Stephanie Plum เป็น suspense series ชวนให้ติดตามหาคำตอบ คือแนวการเขียนของเธอผู้นี้ มีรายได้อยู่ที่ 33 ล้านดอลล่าร์

อันดับ 2  Stephen King  อายุ 66 ปี นักเขียนผู้นี้มีแนวหลากหลาย ฆาตกรรม “ไซ-ไฟ” (Sci-Fi) แนววิทยาศาสตร์  ดราม่า แฟนตาซี  ปี 2013 เป็นปีที่เขาออกหนังสือแนวท่องเที่ยว “11/22/63” นิยายซีรีส์ ชื่อ “Dark Tower” นำไปสร้างเป็นภาพยนตร์ มีรายได้อยู่ที่ 39 ล้านดอลล่าร์

อันดับ 1   James Patterson อายุ 67 ปี ตลอดชีวิต เขามีอาชีพจากการเขียนนวนิยายขาย ซึ่งผิดกับนักเขียนคนอื่นๆ ที่มีอาชีพอื่นด้วย รายได้จากการขายลิขสิทธ์เพื่อสร้างหนังหรือละครทีวีน้อยมาก  ปี 2011 สามารถผลิตนิยายวางจำหน่ายได้ถึง 14 เรื่อง นักเขียนผู้นี้มีรายได้ถึง 64 ล้านดอลล่าร์

ลองคิดดูว่า อาชีพนักเขียนทุกวันนี้ แม้กระทั่งในบ้านเราก็ไม่ธรรมดา แถมรายได้ล้นเหลือกว่าคำว่า “แค่พอยาไส้” หรือว่า ไม่พอยาไส้”

อยากจะเขียนอะไรก็ลองนึกวาดมโนภาพก่อน ตอนต่อไปจะลองมาดูการเขียน theme และ plot เรื่องกันว่า จะช่วยให้การเขียนหนังสือซักหนึ่งเล่มเป็นเรื่องง่าย ไม่ยากจนเกินไป แต่หลายคนก็บ่นว่า ก็ไม่ง่ายซะทีเดียว

โพสท์ใน ทั่วไป | ปิดความเห็น บน การเป็นนักเขียนไม่ยาก แต่ก็ไม่ง่าย

ความร่วมมือระหว่าง fukui และ nation university

fukui & ntu meeting
fukui & ntu meeting

21 พ.ค.57 ที่มหาวิทยาลัยเนชั่นทั้งผู้บริหาร และคณาจารย์
นำโดย ผศ.ดร.พงษ์อินทร์ รักอริยะธรรม อธิการบดี ได้ประชุมร่วมกับ
Prof.Fumio Nakayasu (Head of International Center of FUT)
และ Ms.Ayako Kobayashi (Chief of an International Center)
จากมหาวิทยาลัย fukui ประเทศญี่ปุ่น
http://www.fukui-ut.ac.jp
เกี่ยวกับความร่วมมือทางด้านวิชาการ
การจัดประชุมวิชาการร่วมกัน การแลกเปลี่ยนนักศึกษา อาจารย์ หลักสูตรร่วม
จัดกิจกรรมศึกษาในต่างประเทศทั้งระยะสั้น ทั้งตรีและโท และการโอนหน่วยกิต เป็นต้น

fukui document
fukui document
fukui document
fukui document

ตามเอกสารนำเสนอข้อมูลมหาวิทยาลัย Fukui
ทำให้ทราบว่าที่ fukui กำลังดำเนินการเปิดหลักสูตร
ที่เกี่ยวข้องกับวิทยาศาสตร์กีฬาและสุขภาพ (Sport & Health Science)
ซึ่งเชื่อมโยงกับ คณะวิทยาศาสตร์สุขภาพ ของมหาวิทยาลัยเนชั่นได้เป็นอย่างดี
ซึ่งก่อนหน้านี้มีคณะออกแบบ และคณะไอทีให้ความสนใจ เสนอหัวข้อ
โดยผลการประชุม ทางญี่ปุ่นจะนำไปหารือกับคณะวิชาต่าง ๆ
และจัดทำแผนต่อไป ซึ่งมีเงื่อนไขเรื่องช่วงเวลาและรูปแบบเป็นสำคัญ
ซึ่งฝ่ายเมืองไทยได้กำหนดแผนจัดประชุมวิชาการ ntc2014
ในวันที่ 6-8 ธันวาคม 2557 ณ มหาวิทยาลัยเนชั่น
หากติดขัดเรื่องการเปิดปิดภาคเรียนก็อาจกำหนดเป็นเดือนกุมภาพันธ์ 2558
https://www.facebook.com/media/set/?set=a.637111256365963.1073741984.228245437252549

ซึ่งก่อนหน้านี้ท่านอธิการบดี  Prof. Dr.Yotaro Morishima
ของ Fukui University of Technology
ได้มาเป็น keynote speaker ในงานประชุม ntc2014
เมื่อวันที่ 26 มกราคม 2557 ในหัวข้อ
Challenges of Japanese Universities in the Borderless Era
http://www.thaiall.com/blog/burin/5733/
http://blog.nation.ac.th/?p=2887

โพสท์ใน ทั่วไป | ติดป้ายกำกับ , | ปิดความเห็น บน ความร่วมมือระหว่าง fukui และ nation university

การจัดทำหลักสูตรตามกรอบมาตฐานคุณวุฒิระดับอุดมศึกษาแห่งชาติ (TQF)

สรุปองค์ความรู้ที่ได้รับ

  1. อาจารย์มีความเข้าใจในการจัดทำหลักสูตรตามกรอบมาตรฐาน TQF ที่แตกต่างกัน แก้ปัญหาโดย จัดประชุมร่วมกันในคณะ เพื่อทำความเข้าใจให้ตรงกัน รวมทั้งกำหนดอาจารย์ผู้รับผิดชอบในการจัดทำ มคอ.3 แต่ละรายวิชาในหลักสูตร
  2. อาจารย์บางท่านขาดความเข้าใจในการเขียน มคอ.3 และ มคอ.5 ที่สอดคล้องกับมาตรฐานผลการเรียนรู้ของหลักสูตร แก้ไขโดย มีอาจารย์พี่เลี้ยงที่เข้าใจในเรื่องดังกล่าวในการอธิบายเป็นรายบุคคลและรายวิชา
  3. อาจารย์บางท่านขาดความเข้าใจในการเชื่อมโยงข้อมูลระหว่าง มคอ.3 และ มคอ.5 แก้ปัญหาโดย การแลกเปลี่ยนเรียนรู้จากผู้มีประสบการณ์ในการเขียน มคอ.3 และ มคอ.5 และเปิดโอกาสให้อาจารย์ฝึกปฏิบัติจริง
  4. ในการจัดทำ มคอ.3 และ มคอ.5 ไม่มีการกำหนดรูปแบบที่เป็นมาตรฐาน ทำให้รายละเอียดของเนื้อหาใน มคอ.3 และ มคอ.5 มีความแตกต่างกัน แก้ไขโดย ให้สำนักงานหลักสูตรและการเรียนการสอนเป็นผู้รับผิดชอบในการกำหนดรูปแบบ มคอ.3 และ มคอ.5 ที่เป็นมาตรฐานสำหรับทุกคณะวิชา
  5. ขาดคู่มือเพื่อใช้เป็นแนวทางประกอบการจัดทำ มคอ.3 และ มคอ.5 แก้ปัญหาโดยการ มอบหมายให้สำนักงานหลักสูตรและการเรียนการสอนเป็นผู้รับผิดชอบในการจัดทำต่อไป
  6. อาจารย์มีความเข้าใจในเรื่องของการทวนสอบที่แตกต่างกัน แก้ปัญหาโดย ให้สำนักงานหลักสูตรและการเรียนการสอนเป็นผู้รับผิดชอบในการกำหนดรูปแบบการทวนสอบที่เหมาะสมสำหรับทุกคณะวิชา

สรุปองค์ความรู้โดย อ.เกศริน อินเพลา

โพสท์ใน KM:ด้านการวิจัย | ติดป้ายกำกับ , | ปิดความเห็น บน การจัดทำหลักสูตรตามกรอบมาตฐานคุณวุฒิระดับอุดมศึกษาแห่งชาติ (TQF)

มหาวิทยาลัยจัดกิจกรรมเตรียมความพร้อม peervisit

Knowledge Sharing-KS
Knowledge Sharing-KS

มหาวิทยาลัยจัดกิจกรรมเตรียมความพร้อม พูดคุยแลกเปลี่ยน
เรื่อง การเตรียม peervisit ประจำปีการศึกษา 2556
มีประเด็นหารือแลกเปลี่ยน สรุปได้ดังนี้

1. การกำหนดข้อตกลงร่วม ว่าจะพิจารณาเอกสารตามคำอธิบาย
ถ้าไม่มี หรือยังไม่ได้รับ หรือรอเอกสาร
เพื่อนต้องเขียนรายงาน ระบุ ว่ารอจากใคร และคะแนนเป็น 0
โดย อ.อดิศักดิ์ และพี่นายประกัน อ้างอิงว่าผู้บริหารต้องการให้เหมือนจริง
เพื่อการติดตาม และพัฒนา
2. ห้อง e-document ตกลงให้ตั้งชื่อใหม่
ให้สอดคล้องกับรอบปีและมีความหมาย ขึ้นใหม่ 3 ห้อง
คือ peervisit56 และ sar56 และ dataqa56
ตามข้อเสนอแนะของ อ.อดิศักดิ์ และคุณเปรมจิต
3. มีการถกเถียงแลกเปลี่ยนเรื่อง convergence
ว่าจะรวมศูนย์เอกสาร หรือกระจายศูนย์
โดยที่ประชุมมีมติให้กระจายห้องเก็บเอกสาร
แม้ อ.เกศริน และพี่นายประกัน จะเห็นไปในทางรวมศูนย์ก็ตาม
4. แต่ละทีมได้หารือแลกเปลี่ยนประสบการณ์ว่าใครจะไปองค์ใด
เช่นทีมคณะสังคม คือ บุรินทร์ ลัดดาวรรณ และฉัตรไชย
กำหนดเป็น 2+7 และ 1+8+9 และ 3+4+5+6
ซึ่งแต่ละทีมก็จะมีการพิจารณาแตกต่างกันไป
5. ได้ย้ำเรื่องกำหนดการว่าเริ่มดำเนินการ 26-28พ.ค.57
และรายงานสรุปผล 2 มิ.ย.57
6. การนำเสนอการใช้งานระบบ และวิธีการเขียนรายงาน
ไม่มีเพื่อนในทีมมีข้อสงสัย โดยพี่นายประกันจะเป็นผู้คัดลอกข้อมูลออกมา
แล้วนำไปจัดทำรายงานต่อไป
7. เป้าหมายของการทำ peervisit ครั้งนี้
ก็เพื่อให้คณะวิชามีความพร้อม และปรับเอกสารให้ตรงกับความต้องการ
ของเกณฑ์ประเมินคุณภาพการศึกษาอย่างแท้จริง

กิจกรรมนี้ ตามแนว tuna model
เป็นส่วน “ตัวปลา” (Knowledge Sharing-KS)
หมายถึง ส่วนของการแลกเปลี่ยนเรียนรู้
ซึ่งถือว่าเป็นส่วนสำคัญ ซึ่ง “คุณอำนวย” จะมีบทบาทมากในการช่วยกระตุ้นให้ “คุณกิจ”
มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ความรู้ โดยเฉพาะความรู้ซ่อนเร้นที่มีอยู่ในตัว
“คุณกิจ” พร้อมอำนวยให้เกิดบรรยากาศในการเรียนรู้แบบเป็นทีม
ให้เกิดการหมุนเวียนความรู้ ยกระดับความรู้ และเกิดนวัตกรรม

ผู้ร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้
มี อ.แต อ.นุ้ย พี่นาย คุณลัดดาวรรณ อ.วันชาติ
พี่ลักขณา อ.อดิศักดิ์ อ.ฉัตรชัย คุณเปรมจิต อ.แตงโม

เครื่องมือนำเสนอกระบวนการ ในการกรอกข้อมูล peervisit ด้วย powerpoint
http://it.nation.ac.th/doc/oit/Peer_Visit_Manual_report.pdf
โปรแกรมพัฒนาโดย คุณเปรม อุ่นเรือน และผศ.บุรินทร์ รุจจนพันธุ์
http://www.scribd.com/doc/223725577/Peer-Visit-Manual-Report

โพสท์ใน ทั่วไป | ติดป้ายกำกับ | ปิดความเห็น บน มหาวิทยาลัยจัดกิจกรรมเตรียมความพร้อม peervisit

เทคนิคการเขียนบทความทางวิชาการเพื่อการตีพิมพ์

nccit diagram

nccit diagram

ระบบและกลไก การนำเสนอบทความทางวิชาการในการประชุม
บทเรียนจาก nccit.net

ทุกปีการศึกษาต้องมีบทความทางวิชาการ
ที่เขียนโดยอาจารย์ในคณะวิชา เพื่อสะท้อนอะไรบางอย่างที่เรียกว่าตัวตน
ดังนั้นคณะเทคโนโลยีสารสนเทศ จึงกำหนดให้มีการพูดคุยกัน
เรื่อง เทคนิคการเขียนบทความทางวิชาการเพื่อการตีพิมพ์

มีวัตถุประสงค์ 3 ข้อ
1. เพื่อหาแนวปฏิบัติที่ดีของการเขียนบทความทางวิชาการเพื่อการตีพิมพ์
2. เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจให้คณาจารย์ในการเขียนบทความทางวิชาการที่มีคุณภาพ
3. เพื่อให้ผลงานทางวิชาการของคณาจารย์ได้รับการตีพิมพ์เพิ่มมากขึ้น

ในการประชุมหลายครั้ง เราได้พูดคุยถึง good practice
ของอาจารย์หลายท่านที่เขียนบทควาทางวิชาการ แล้วนำเสนอ
ซึ่งมีเวทีมากมายที่จะรับผลงานตีพิมพ์ เชื่อมโยงกับฐานข้อมูล TCI
ก็จะช่วยให้บทความที่นำเสนอมีความน่าเชื่อถือ น่าสนใจ และเป็นที่ยอมรับ

บุคลากรของมหาวิทยาลัยเข้าร่วมเวทีต่าง ๆ เรื่องการเขียน และการให้ความสำคัญ
กับการเขียนบทความวิชาการ
เช่น การเขียนบทความทางวิชาการเพื่อใช้เป็นผลงานทางวิชาการหนึ่ง
ที่ถูกใช้เสนอขอตำแหน่งทางวิชาการ
โดยคณะสนับสนุนให้เข้าร่วมอบรม เมื่อวันที่ 2 เมษายน 2557
ซึ่ง ผศ.ดร.ศิริพร เสริตานนท์  วิทยากร
พูดถึงความสำคัญของการเลือกนำเสนอในเวที ที่อยู่ในรายการของ TCI
https://www.facebook.com/media/set/?set=a.584196208261181.142796.506818005999002
https://scontent-b-sin.xx.fbcdn.net/hphotos-prn2/t1.0-9/p180x540/1511240_818713478142785_1400895810_n.jpg

มหาวิทยาลัยสนับสนุนให้บุคลากรเขียนบทความทางวิชาการเสนอในเวทีต่าง ๆ
เช่น เวทีของมหาวิทยาลัยเนชั่น งานประชุม lampang 2020
การประชุมวิชาการ อุดมศึกษาไทยกับการพัฒนาประเทศ ประจำปีการศึกษา 2556
การสนับสนุนให้นักศึกษานำเสนอภาคโพสเตอร์
ซึ่งผ่านการกลั่นกรองจาก อ.ดร.อติชาต หาญชาญชัย อ.ที่ปรึกษา
โดยมีงานที่ผ่าน 2 ชิ้นคือ น.ส.ศัลณ์ษิกา ไชยกุล และนายณภัทร เทพจันตา
https://www.facebook.com/ajarnburin/photos/a.779721072042026.1073741916.506818005999002/779721945375272/
https://www.facebook.com/media/set/?set=a.779721072042026.1073741916.506818005999002

การจัดเวทีให้นักศึกษา และอาจารย์ได้มีโอกาสนำเสนอในเวที
ช่วยให้บุคลากรมีความเข้าใจเทคนิคการเขียนบทความ และการนำเสนอในเวทีดีขึ้น
ในคณะเทคโนโลยีสารสนเทศ มีอาจารย์ร่วมนำเสนอหลายบทความ
ทั้งในเวทีของมหาวิทยาลัย และเวทีนอกมหาวิทยาลัย
แล้วนำประสบการณ์มาร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในคณะวิชา
อาทิ ntc 2014 หรือ nccit 2014
เพื่อเชิญชวนทุกท่านได้ออกไปนำเสนอในเวทีต่าง ๆ
http://www.nation.ac.th/ntc2014/

โพสท์ใน KM:ด้านการวิจัย, คณะเทคโนโลยีสารสนเทศ, คอมพิวเตอร์ธุรกิจ, วิทยาการคอมพิวเตอร์ | ติดป้ายกำกับ , , | ปิดความเห็น บน เทคนิคการเขียนบทความทางวิชาการเพื่อการตีพิมพ์